บ้านเช่าก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ต้องย้ายมาทำงานไกลบ้าน หรือว่าอาจจะเช่าไว้เพื่อปล่อยให้เช่าอีกต่อหนึ่ง หรือเช่าไว้เพื่อขายของก็ได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเลือกบ้านเช่ากัน ว่าควรจะเลือกอย่างไรบ้างให้คุ่มค่าเช่าและน่าอยู่อาศัย
- หาข้อมูลไว้ก่อน อย่างเช่น อยากได้บ้านเช่าอยู่ในทำเลไหน เอาแบบใกล้ที่ทำงาน โรงเรียนลูกก็ลองค้นหาทางอินเทอร์เน็ตตามเว็บไซต์อสังหาต่างๆ ค้นหาเลยว่ามีบ้านที่เราโดนใจกี่หลัง และก็ให้จดชื่อและเบอร์โทรไว้เพื่อติดต่อสอบถาม เพราะว่าเราจะต้องเดินทางไปดูบ้านเช่าที่เราเลือกไว้
- นัดหมายกับเจ้าของบ้านหรือห้องเช่า เพื่อไปดูสภาพจริงของห้องเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะบางครั้งดูรูปจากในอินเทอร์เน็ตแล้วอาจจะดูดีกว่าสถานที่จริงก็ได้ ก่อนที่จะทำสัญญาเช่าบ้านก็ควรจะต้องดูสภาพบ้านก่อนว่าต้องซ่อมตรงไหนบ้างหรือเปล่า ชอบไม่ชอบมุมไหน เป็นต้น
- วันที่ไปดูบ้านหรือห้องเช่าที่เรานัดเจ้าของไว้ โดยขอเข้าดูสิ่งของ หรือทุกซอกทุกมุมของห้องเลย ห้องครัวมีคราบสกปรกอะไรบ้างไหม ห้องน้ำสะอาดหรือไม่ มีท่อแตกหลุดรั่วหรือไม่ และเรารับกับสภาพบ้านได้หรือไม่ และยังต้องดูในส่วนของความปลอดภัยด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแน่นหนาของห้องพัก ในเรื่องของประตูหน้าต่าง กำแพง หรือรั้วเป็นอย่างไร หากมีกล้องวงจรปิดก็ต้องสอบถามว่าใช้งานได้หรือเปล่า และต้องดูด้วยว่าอยู่ใกล้สถานที่ใดบ้าง เช่น โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า เซเว่นต่างๆ และต้องที่สำคัญต้องดูด้วยว่า จะเดินทางไปทำงานได้อย่างไร ไกลมากหรือเปล่า
- อย่าลืมถามเรื่องค่าเช่าและรายละเอียดต่างๆด้วย ว่ามีค่าเช่าเท่าไร ค่าน้ำค่าไฟต้องจ่ายอย่างไรบ้าง มีการมัดจำค่าของเสียหายเท่าไร และควรจะสอบถามเพื่อนบ้านด้วยว่ามีการขึ้นค่าเช่าบ่อยไหม การดูแลจัดการเวลามีปัญหาเป็นอย่างไร เป็นต้น
- อย่าลืมเปรียบเทียบราคาและลักษณะของบ้านหรือห้องเช่าที่เราไปสำรวจแต่สถานที่ด้วย โดยต้องดูให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อจะได้ตัดสินใจไม่ผิดพลาด
- ทำสัญญาเช่า ก่อนที่จะเซ็นสัญญาต่างๆ ก็ต้องอ่านรายละเอียดให้ดี ตรวจคูกุญแจต่างๆว่ามีครบทุกห้องหรือไม่ และอย่าลืมขอเบอร์เจ้าของห้องเช่าเอาไว้ด้วย เผื่อว่าเกิดปัญหาจะได้ติดต่อได้เลย
ทั้งหมดนี้คือวิธีการเลือกห้องเช่าอย่างไรให้คุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด และเป็นห้องเช่าหรือบ้านเช่าที่สร้างความสุขให้คุณได้อย่างแท้จริง เพราะไม่สร้างปัญหาให้คุณปวดหัวและอยากจะย้ายออกนั่นเอง